DNS | ความเสถียรที่ส่งผลต่อความเร็วของอินเตอร์เน็ต

บางครั้งเราอาจจะพบว่าอินเทอร์เน็ตที่เราใช้อยู่ที่บ้าน มีความช้า และไม่ค่อยเสถียร เกิดอาการหลุด ๆ ติด ๆ หนึ่งในหลาย ๆ สาเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ ก็คือ ค่า DNS ที่เครื่องคอมเราใช้อยู่นั่งเอง ซึ่งทางแก้ที่แนะนำให้ใช้ก็คือ เลือกใช้ DNS ที่เสถียรกว่าและเร็วกว่า โดยปัจจุบันมีผู้ให้บริการ DNS ฟรีหลายค่าย เช่น Google Public DNS, Open DNS, Norton DNS, และ Recursive DNS เราสามารถเลือกใช้ได้ตามความสะดวก หรือจะใช้ร่วมกันได้

DNS (Domain Name System หรือ Domain Name Server) คือ ระบบที่มีไว้สำหรับบริหารจัดการข้อมูลของชื่อโดเมนเนม (Domain Name) และ ทำหน้าที่ในการแปลงชื่อโดเมนเนมดังกล่าวเป็นหมายเลขไอพีแอดเดรส (IP Address) เพื่อนำหมายเลขไอพีดังกล่าวไปติดต่อยัง Sever อื่น ๆ ที่ต้องการต่าง ๆ เช่น Sever Email Hosting , Server Web Hosting เป็นต้น

 

DNS Server คือ Server Computer และชุด Database ที่ประกอบไปด้วย IP Address ทำหน้าที่เชื่อม ชื่อของเว็บไซต์ต่างๆ และ ไอพี แอดเดรส ที่ถูกกำหนดไว้ เรียกได้ว่าเสมือนเป็นสมุดโทรศัพท์ของโลกอินเตอร์เน็ตนั่นเอง เมื่อเราพิมพ์ชื่อ Domain Name เช่น addin.co.th ลงบน Address Bar ของเว็บเบราว์เซอร์ Server ประเภทนี้ จะทำหน้าที่หา IP Address ที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นเลขไอพีที่ใช้สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลขอเว็บไซต์ได้

 

เมื่อ DNS Server หาเลขไอพีที่ถูกต้องได้แล้ว Browser จะนำเลขนั้นมาประมวลผลต่อเพื่อใช้ส่งข้อมูลไปยัง Content Delivery Network (CDN) Server เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว ข้อมูลต่าง ๆ ของ Website จะสามารถเข้าถึงได้โดย User ทันที สรุปง่าย ๆ คือ DNS Server ทำหน้าที่หาและเชื่อมต่อกับเลข IP Address สำหรับเว็บไซต์ Uniform Resource Locator (URL) นั่นเอง

สถานที่ตั้งของ DNS Server นั้น ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อความเร็วที่สุด ในส่วนของความไวในการตอบสนองต่อคำขอ ซึ่งผู้ให้บริการ Internet ส่วนใหญ่นั้น จะกระจาย Server ของตนไว้ทั่วรอบโลกเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในทุกสถานที่ ให้เลือกใช้ DNS Server ที่ใกล้ที่สุดนั่นเอง หากใครเลือกใช้ DNS Server ที่อยู่ไกล ก็อาจจะส่งผลให้การเชื่อมต่อและตอบสนองช้าลง เพราะฉะนั้นถ้าอยากได้ประสิทธิภาพแรง ๆ แนะนำให้เลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ Location ใกล้ ๆ ระยะทางระหว่างผู้เยี่ยมชมกับ Website ก็สำคัญเช่นกัน อุปกรณ์ที่อยู่ใกล้กันมักเชื่อมต่อกันได้เร็วกว่า Device ที่อยู่ห่างกันคนละฟากของโลก ถึงแม้จะไม่ได้ต่างกันมากก็ตาม

 

การเข้าถึง Website ที่เคยเข้าไปแล้วก็อาจจะเร็วขึ้นเช่นกันเพราะข้อมูลครั้งก่อนหน้าบางส่วน ถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์แล้วด้วยในลักษณะ Cache ที่ผมกล่าวถึงก่อนหน้านั่นเอง

 

อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องความเร็วคือระบบ CDN (Content Delivery Network) ซึ่งช่วยให้ส่งผ่านเนื้อหาได้เร็วขึ้น เพราะเจ้า CDNs นี้จะส่ง Content ไปยังสถานที่ที่อยู่ใกล้กับ User นั้นvๆ หาก DNS Server ใช้ระยะเวลานานในการเชื่อมต่อ เนื้อหาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ วิดีโอ หรือข้อความ จะถูกส่งไปยังอุปกรณ์ได้เร็วขึ้นเพราะไม่ต้องเดินทางในระยะที่ไกล

 

สรุปได้ว่า DNS (Domain Name Server) นั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการช่วยให้ความเร็วของอินเตอร์เน็ตและความเสถียรมีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประสิทธิภาพการทำงานทั้งส่วนตัวและส่วนรวม หากพวกเราช่วยกันแก้ไขในจุดที่อาจจะมองข้ามไปบ้าง เราก็จะมีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย

 

“READY IDC”

ยินดีเป็นผู้ช่วยคนใหม่…ให้คุณ

 

สนใจติดต่อหรือสอบถามรายละเอียดการให้บริการเพิ่มเติมได้ทาง

Email: [email protected] หรือ www.readyidc.com

By Ready IDC