Trend เทคโนโลยี Cloud ที่ต้องจับตามองปี 2021 | Ready IDC

ในปี 2021 ยุคสมัยเเห่งเทคโนโลยี และความก้าวหน้า ทุกองค์กรต่างต้องการความยืดหยุ่นในการประมวลผลข้อมูลเวิร์คโหลดของตนเองลงบนเเพลตฟอร์มต่างๆ โดยไม่ต้องเขียนลงใหม่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาจึงค้นพบว่า แนวทาง ‘one-cloud-fits-all’ หรือ Cloud เดียวสำหรับทุกอย่างนั้นใช้ไม่ได้จริงอีกต่อไปเเล้ว

 

องค์กรต่างกำลังมองหาวิธีการจัดการกับข้อมูลที่กระจัดกระจาย และซับซ้อน เมื่อต้องใช้ Cloud หลายระบบ ดังนั้น มัลติ Cloud แบบไฮบริดจึงกลายที่เป็นกลยุทธ์สำคัญที่องค์หลายเเห่งเลือกใช้ เพราะเป็นวิธีย้ายเวิร์คโหลดไปยังระบบ Cloud ที่ทั้งยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ และยังช่วยลดต้นทุน แต่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน พร้อมช่วยลดการผูกขาดกับเวนเดอร์เพียงเจ้าเดียวได้อีกด้วย

 

เทรนด์ดังกล่าวคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2021 นี้ เพราะธุรกิจในทุกภาคส่วนจะหันมาใช้ระบบมัลติ Cloud กันหมด เพื่อผลักดันองค์กรให้สามารถพัฒนา และนำแอพพลิเคชั่นออกมาใช้งานได้รวดเร็วขึ้น ทำให้ธุรกิจของตนเองสามารถผันตัวสู่ยุคดิจิตัลเร็วขึ้น อีกทั้งยังมอบความสะดวกสบาย และประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ

 

ในขณะเดียวกัน หากมีการใช้งาน Cloud มากขึ้น สิ่งที่ต้องโฟกัสจุดต่อไปนั่นคือ ระบบความปลอดภัย องค์การต่างๆจึงหันมาใช้การเข้ารหัส เพื่อให้ระบบ Cloud ขององค์กรปลอดภัยอยู่เสมอแม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยภัยคุกคามอย่างในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเริ่มเปิดรับ เทคโนโลยีอย่าง Edge พร้อมกับเครื่องมืออัตโนมัติต่างๆเข้ามา เพื่อให้สามารถจัดการดูแลอีโคซิสเต็มของระบบ Cloud ที่สลับซับซ้อนให้ทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นได้ง่ายยิ่งขึ้น

5 แนวโน้มที่คาดว่าจะได้เห็นในปี 2021 หากทุกองค์ยังเดินหน้าใช้ระบบ Cloud ต่อไป

 

  1. ทุกองค์กรจะหันมาใช้ Edge ในกลยุทธ์ไฮบริด Cloud มากขึ้น เมื่อมี 5G เข้ามา

 

เมื่อพิจารณาจากหลายๆด้านเเล้วสามารถบอกได้เลยว่า Edge Computing คือยุคต่อไปของระบบ Cloud ซึ่งจะมีประโยชน์มากต่อระบบโรงงาน และผู้ค้าปลีก โดยระบบนี้จะช่วยให้สามารถคาดคะเนความบกพร่องก่อนที่จะเกิดขึ้นในโรงงาน หรือรับรู้แนวโน้มการซื้อสินค้าของลูกค้าที่อัพเดทเร็วขึ้น และ 5G คือตัวแปรสำคัญที่ทำให้ Edge เป็นจริงได้ เพราะมีคุณสมบัติที่จำเป็นในการลดความหน่วงของข้อมูลให้น้อยที่สุด เนื่องจากมีความเร็ว และแบนด์วิธที่กว้างกว่า ดังนั้นเมื่อเครือข่ายเซลลูลาร์เริ่มเข้าสู่ยุค 5G อีโคซิสเต็มของระบบไฮบริด Cloud ก็จะหันมาใช้ประโยชน์จากการประมวลผลข้อมูลที่บริเวณขอบเครือข่ายมากขึ้นเรื่อยๆ

 

2. บทบาทสำคัญในเฟสต่อไปของมัลติ Cloud แบบไฮบริด คือ ระบบอัตโนมัติ (Automation)

 

เนื่องจากแนวโน้มขององค์กรที่นำกลยุทธ์มัลติ Cloud แบบไฮบริดมาใช้นั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นระบบ Cloud  สาธารณะ Cloud ภายในองค์กร หรือ Cloud ส่วนตัว ดังนั้นเมื่อต้องใช้ Cloud หลายระบบ องค์กรจึงจำเป็นต้องมองหาวิธีการจัดการกับความซับซ้อนที่มากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องนี้จึงกลายเป็นปัจจัยชี้วัดความสำเร็จของกลยุทธ์ Cloud ขององค์กรต่างๆเลยทีเดียว จนท้ายที่สุดจึงเกิดสิ่งที่เรียกว่า ‘เครื่องมืออัตโนมัติ’ ขึ้นในปี 2021 เพื่อมาจัดการกับปัญหาความซับซ้อนนี้ โดยช่วงแรกจะเป็นการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้งานและแดชบอร์ดที่สามารถแสดงภาพรวมการทำงานของระบบ Cloud  ก็จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับผู้ดูแลระบบเช่นกัน

 

3. ด้วยอิทธิพลจากกลยุทธ์ไฮบริด Cloud ทำให้เกิดศูนย์บัญชาการ (Command Center) ด้านความปลอดภัยขึ้นมากมาย

 

ผู้มีอิทธิพลด้านไอทีกว่า 60% มองว่าความปลอดภัยเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดในการเลือกผู้ให้บริการระบบ Cloud แต่ถึงอย่างนั้นการจัดการกับปัญหาด้านนี้ยังคงมีความซับซ้อนอยู่มาก เนื่องจากการกระจัดกระจายของข้อมูล ดังนั้นในปีนี้ จึงคาดว่าจะได้เห็นเครื่องมือที่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกด้านความปลอดภัย และสามารถรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างรวดเร็วผ่านเเดชบอร์ดที่รวมทุกอย่างไว้ และมีศูนย์บัญชาการเพียงหนึ่งเดียว โดยการถือกำเนิดของ DevSecOps เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าในปี 2021 เราจะได้เห็นอีโคซิสเต็มด้านความปลอดภัยที่เชื่อมโยงถึงกันเป็นหนึ่งเดียวมากขึ้น

 

4. นอกเหนือจากภาคการเงินการธนาคาร ก็จะมีการเปิดรับระบบ Cloud เฉพาะด้านมากยิ่งขึ้น

 

เมื่อทุกองค์กรที่ไม่ใช่เพียงภาคการเงิน หรือการธนาคาร หันมาใช้ระบบ Cloud องค์กรเหล่านั้นย่อมต้องหาวิธีการใน การปรับใช้ระบบ Cloud ให้ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาได้ และคุณสมบัติที่สำคัญ คือการช่วยลดภาระในด้านการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ

 

โดยในปี 2021 ได้มีการเปิดตัวระบบ Cloud สาธารณะสำหรับบริการด้านการเงินขึ้น โดย Bank of America ใช้ระบบนี้ในการโฮสต์แอพพลิเคชันและเวิร์คโหลดหลักๆ เพื่อให้บริการลูกค้าธนาคารจำนวน 66 ล้านราย ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันที่สำคัญ ไม่เพียงแค่ในระบบการธนาคาร แต่ยังเป็นแม่แบบให้กับภาคธุรกิจอื่นๆอีกด้วย

 

มีประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่างนั่นคือ จากการศึกษาโดย IBM พบว่าในปัจจุบันมีองค์กรเพียง 40% จากทั่วโลก ที่มีทักษะ และสามารถปรับใช้กลยุทธ์มัลติ Cloud ได้ และสิ่งนี้คือเรื่องที่ระบบ Cloud เฉพาะด้านสำหรับแต่ละภาคธุรกิจสามารถช่วยได้ เพราะข้อดีที่สำคัญที่สุดของการเปิดรับบริการ Cloud เฉพาะด้านสำหรับแต่ละภาคธุรกิจ ก็คือความง่ายในการจัดการและดูแลระบบนั่นเอง

 

5. เครื่องมืออย่างโอเพ่นซอร์สจะเพิ่มขึ้น เเละทำให้ลูกค้าทั่วไปเข้าถึงคูเบอร์นิทิสได้

 

เทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สกำลังส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบ Cloud  ในปี 2021 โดยองค์หลายเเห่งหันมาปรับใช้ระบบนี้เพื่อเพิ่มความทันสมัยให้กับโครงสร้างพื้นฐาน และทำให้การเปิดรับระบบมัลติ Cloud แบบไฮบริดเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยในปี 2021 นี้ นักพัฒนาจะหันมาเน้นเครื่องมือที่สามารถรองรับการนำแอพพลิเคชั่นออกใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจต้องมีเพื่อคงความเป็นผู้นำในยุคดิจิทัล

 

 

หากคุณกำลังมองหาบริการ Cloud ที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ รวดเร็ว ว่องไว เราขอแนะนำบริการจาก READY IDC

 

“READY IDC”

ยินดีเป็นผู้ช่วยคนใหม่…ให้คุณ

สนใจติดต่อหรือสอบถามรายละเอียดการให้บริการเพิ่มเติมได้ทาง

Email: [email protected] หรือ www.readyidc.com

 

By Ready IDC