Cloud Migration หรือกลยุทธ์ระดับองค์กรที่กำลังมาแรงในยุคนี้ คือขั้นตอนในการย้ายข้อมูลด้วย Cloud Computing

โดยปัจจุบันนี้องค์กรสามารถทำ Cloud Migration ได้หลากหลายรูปแบบซึ่งโดยทั่วไปจะทำการคัดลอกข้อมูลและแอปพลิเคชั่นเป็น 3 รูปแบบดังนี้

                     ● ย้ายระบบจากศูนย์ข้อมูลที่มีอยู่ ไปยัง Public Cloud

●ย้ายระบบจาก Cloud หนึ่งไปยัง Cloud อีกแห่งหนึ่ง หรือที่รู้จักกันว่าการโยกย้าย Cloud-to-Cloud

●ย้ายระบบ Cloud กลับไปสู่ระบบเดิมออกจากระบบ Cloud กลับไปที่ศูนย์ข้อมูลที่มีอยู่

 

ประโยชน์ของ Cloud Migration มีอะไรบ้าง ?

ก่อนที่จะมีระบบCloudเข้ามาเมื่อต้องการลง Software ในระบบจำเป็นจะต้องมีการลงทุนด้าน Hardware หรือ Infrastructure เสียก่อน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อนยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายที่สูง ดังน้ันการโอนย้ายโดยใช้ Cloud Computing จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะสามารถเปิด/ปิดการทำงานเท่าที่ใช้ และคิดค่าใช้จ่ายตามที่ใช้งานจริง หรือที่เรียกว่า Pay as you go อีกทั้งยังมีความปลอดภัยมากกว่าระบบ Data Center เนื่องจากมีเทคโนโลยีด้าน ความปลอดภัยที่อัพเดตอยู่ตลอดเวลา

 

กระบวนการทางานของ Cloud Server

Cloud Server เป็นอีกคำที่คนไม่ได้อยู่ในวงการคอมพิวเตอร์อาจจะไม่คุ้นหูมากนัก แต่ที่จริงแล้ว Cloud Server เป็นอีกปัจจัยสาคัญที่จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากข้ึน เพราะ Cloud Server จะเป็นการนำเอาจำนวนเว็บไซต์ท้ังหมดมาผ่านการประมวลผลในกลุ่มเซิรฟ์เวอร์  ซึ่งจะต้องใช้คอมพิวเตอร์หลายเครื่องทำงานร่วมกัน จึงส่งผลให้การประมวลผลต้ังแต่ระดับโครงสร้างไปจนถึงแอปพลิเคชั่นมีความรวดเร็วมากกว่าเสถียรมากกว่า และยังช่วยยกระดับความปลอดภัยในการใช้งานอีกด้วย ดังน้ันการเลือกใช้ Cloud Server จะช่วยสร้างความปลอดภัยให้ข้อมูล ต่างๆ และลดความเสี่ยงที่ข้อมูลของคุณอาจเกิดการรั่วไหลหรือถูกโจรกรรมจากแฮกเกอร์ได้อีกทั้งหากข้อมูลเกิดการสูญหายเนื่องจากมีเซิรฟ์เวอร์เสียไป 1 ตัวก็ไม่ต้องเป็นกังวลเนื่องจาก Cloud Server ได้ทำการกระจายข้อมูลเอาไปเก็บ ไว้ในเซิรฟ์เวอร์อื่นๆเรียบร้อยแล้วนั่นเอง

 

Migrate to Cloud

“ 7 ขั้นตอนย้ายระบบสู่ Cloud Hosting ”

ในระยะเวลา 3 – 4 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่เทคโนโลยีกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด จนทำให้เทคโนโลยีระบบก้อนเมฆ หรือ Cloud เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากทำให้ธุรกิจ Cloud Computing กลายเป็นที่นิยมของคนทั่วโลก

การให้บริการของระบบ Cloud นั้นพลิกโฉมหน้าวงการ IT เป็นเพราะโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถติดตั้งแอปพลิเคชั่น และบันทึกข้อมูลไว้บน Cloud ได้โดยที่ไม่ต้องลงทุนมากเกินความจำเป็น ทำให้เกิดความคล่องตัวในการทำงาน และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น

เนื่องจากระบบ IT แบบเก่า หรือที่เรียกว่า Legacy IT เป็นการใช้เทคโนโลยีฮาร์ดแวร์มากเกินความจำเป็น และมีการบริหารจัดการที่ยุ่งยาก ความยืดหยุ่นในการทำงานต่ำ และยังใช้งบประมาณในการดูแลระบบที่สูง ดังนั้นการย้ายระบบมาใช้ Cloud Computing จึงเป็นความคิดที่ดีเยี่ยมในการช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับเทคโนโลยีที่หลากหลายมาพัฒนาองค์กรในอนาคต อาทิเช่น Big Data, Machine Learning หรือ AI อีกด้วย

 

เรียนรู้ 7 ขั้นตอนย้ายข้อมูลสู่ระบบ Cloud Computing

การวางแผนสำหรับการเริ่มต้นใช้งานมีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการย้ายไปสู่ Cloud โดยองค์กรส่วนใหญ่เลือกที่จะใช้ Public Cloud ก่อน เพราะมีความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยสูง และคิดค่าใช้จ่ายตามจริง หรืออีกแนวทางจะเป็น Private Cloud ซึ่งเป็นระบบ Cloud สำหรับองค์กรโดยเฉพาะ เนื่องจากมีความปลอดภัยและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรได้ตามความต้องการขององค์กร แต่ก็จะมีการลงทุนเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูงเช่นเดียวกัน

กลยุทธ์ขององค์กรขนาดใหญ่ในการโยกย้ายข้อมูลมาสู่ Cloud Computing มีพื้นฐานทั้งหมด 7 ขั้นตอน ต่อไปนี้

1. การกำหนดเป้าหมาย

เนื่องจากแรงจูงใจและจุดมุ่งหมายในการใช้ Cloud Computing ของแต่ละองค์กรไม่เหมือนกัน การกำหนดเป้าหมายจะช่วยให้เลือกใช้ Cloud ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

2. การประเมิน Environment

เพื่อการประยุกต์ใช้ทรัพยากรที่มีบน Cloud Computing องค์กรสามารถประเมินการใช้งานจากแอปพลิเคชั่นและข้อมูลจำนวนมากที่มีอยู่

3. การเตรียมข้อมูลและแอปพลิเคชั่น

การระบุรายละเอียดการกำหนดโครงสร้างพื้นฐาน การเตรียมข้อมูล และ Metadata เป็นอีกส่วนที่สำคัญของกระบวนการก่อนการโยกย้ายสู่ Cloud Computing เช่น การระบุที่อยู่เครือข่าย, รายละเอียด CPU, หน่วยความจำ และขนาดการจัดเก็บ ในส่วนการเตรียมข้อมูลต้องให้ผู้ใช้สร้าง Snapshots และ VM หรือ Container images พร้อมกับเตรียม Data ต่างๆเพื่อการโอนย้ายไปยังฐานข้อมูล

4. การโอนย้าย

การคัดลอกข้อมูลต่างๆไปยัง Cloud Computing สามารถทำได้หลายวิธี เช่น VPN หรือ การถ่ายโอนข้อมูลผ่านการเชื่อมต่อ Private Network รวมถึงการถ่ายโอนจำนวนมากผ่านฮาร์ดไดรฟ์ หรือทางเลือกอื่นๆ ได้แก่ ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป และบริการที่ออกแบบมาเพื่อสร้าง DR สำหรับโครงสร้างพื้นฐานเฉพาะ เช่น Veeam Backup เป็นต้น

5. การจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานบน Cloud Computing

ส่วนนี้จะเป็นขั้นตอนการโยกย้ายข้อมูลไปสู่ Cloud Computing ซึ่งองค์กรต่างๆ จะทำการสร้างโครงสร้าง Cloud Environment เพื่อติดตั้งแอปพลิเคชั่นและพื้นที่การย้ายข้อมูล และรวมถึงการตั้งค่า VMs, Volume Storage, Networking, Databases, Load balancer, Access Management และอื่น ๆ

6. การทดสอบและปรับ Environment ให้เหมาะสม

ก่อนการใช้งาน Cloud Computing อย่างเต็มรูปแบบ จะต้องมีการทดสอบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆของ Cloud Computing เพื่อการันตีการทำงานของระบบ ว่ามีความเสถียรที่มากพอ และมีประสิทธิภาพในการทำงานที่สามารถใช้ได้จริง เพื่อที่ว่าหากเกิดปัญหาขึ้นมา จะได้ทำการตั้งค่าระบบและทรัพยากรต่างๆใหม่ได้ทันท่วงที

7. การลดปริมาณงานการทำงานของ Cloud Computing ในช่วงเริ่มต้น

ขั้นตอนสุดท้ายนั่นก็คือ การปรับปริมาณการทำงานที่ใช้บนระบบ Cloud Computing ซึ่งในระยะแรกๆอาจมีการใช้ระบบการทำงานแบบเก่าควบคู่ไปกับ Cloud Computing เพื่อให้เกิดการปรับตัวสำหรับแพลตฟอร์มใหม่

และทั้งหมดนี้คือขึ้นตอน Migrate-to-Cloud ของแต่ละองค์กรที่ต้องการย้ายระบบการทำงานแบบ Legacy IT มายัง Cloud หากใครหรือองค์กรไหนกำลังสนใจบริการ Cloud Migration และกำลังมองหาผู้ออกแบบระบบบน Cloud ที่ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพ เราขอแนะนำบริการ Cloud Migration จาก ReadyIDC

“READY IDC”

ยินดีเป็นผู้ช่วยคนใหม่…ให้คุณ

สนใจติดต่อหรือสอบถามรายละเอียดการให้บริการเพิ่มเติมได้ทาง

Email: [email protected] หรือ www.readyidc.com

 

By Ready IDC